วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557


ประวัติ

โอโรจิมารุ นินจาถอนตัวจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน และมีความฝันที่จะเป็นโฮคาเงะ โอโรจิมารุเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี และได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างอมตะ เพื่อสามารถสำเร็จวิชานินจาทุกชนิดที่มีมา ผลปรากฏว่าทำให้หลายคนในหมู่บ้านไม่พอใจ รวมถึงโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เมื่อมีการคัดเลือกโฮคาเงะรุ่นต่อมา โอโรจิมารุไม่ได้รับเลือก ทำให้โอโรจิมารุแค้นโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และได้ถอนตัวออกจากหมู่บ้านไป
ต่อมาโอโรจิมารุได้เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษา และก่อตั้งแคว้นโอโตะ

คาถา-วิชานินจา

นอกจากความสามารถทางด้านนินจา โอโรจิมารุ สามารถย้ายร่างของตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่นได้ อีกด้วยและยังมีลูกน้อง คือ 1.จิโรโบ 2.คิโดมารุ 3.ฝาแฝดซาคอน (น้อง) อูคอน (พี่) 4.ทายูยะ 5.คิมิมาโร่ 6.คาบูโตะ ความสามารถของจิโรโบคือ คุกดิน พลิกพสุธาและยิงกระสุนยักพสุธา ความสามารถของคิโดมารุคือ ใช้ใยแมงมุม ความสามารถของซาคอนและอูคอนคือ การผสานเซลล์ของตัวเอง กับสิ่งมีชีวิต ความสามารถของทายูยะคือ ใช้เสียงขลุ่ยเป็นอาวุธ ถนัดสายจิตหลอน ความสามารถของคิมิมาโร่คือ สามารถนำกระดูกออกมาช่วยในการต่อสู้ได้ ความสามารถของคาบูโตะคือ วิชาแพทย์ แบบโจมตี (ผีมือพอๆ กับคาคาชิ)

คาถา [ดาบคุซานางิ (ดาบอสรพิษ)][แก้]

  • คาถางูแฝดพลีชีพ
  • คาถาสัมภเวสีคืนชีพ [อิโด เทนเซย์]
  • คาถาหัตถ์อสรพิษพัวพัน
  • คาถามือเงาอสรพิษ
  • คาถาหัตถ์อสรพิษประสานเงา
  • คาถาร้อยเงาคลื่นอสรพิษ (พ่นงูออกมามากเท่าภูเขา)
  • คาถาย้ายชีพอมตะ
  • คาถาอัญเชิญ (เคียวไดจา มันดะ ประตูราโชมอน (อาจมี3ขั้นก็ได้))
  • คาถาอสรพิษแปดเศียร (ยามาตะโนะโอโรจิ)

คาถา (มันดะ เคียวไดจา)

  • เขี้ยวอสรพิษ
  • พันธนาการอสรพิษ

เนื้อเรื่อง

โอโรจิมารุได้แอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะในช่วงการสอบจูนิน โดยปลอมตัวมาโดยการลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นใส่ในหน้าของตัวเอง และได้วางแผนให้นินจาจากหมู่บ้านโอะโตะ เข้ามาสอบในขณะเดียวกันในฐานะอาจารย์นินจาประจำหมู่บ้านโอะโตะ โดยในระหว่างการสอบรอบที่สองในป่า โอโรจิมารุได้มาโจมตีกลุ่มของ นารูโตะ เพื่อต้องการร่างกายของซาสึเกะ ไปเป็นร่างของตัวเอง โดยได้ผนึกอักขระไว้ที่คอของซาสึเกะ และได้หนีไป หลังจากนั้นในระหว่างรอบคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้ปรากฏตัวออกมาในฐานะอาจารย์ประจำหมู่บ้านโอะโตะ คอยสังเกตการณ์ ภายหลังรอบคัดเลือกได้จบลง แผนการโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ จากความร่วมมือของหมู่บ้านซึนะและหมู่บ้านโอโตะได้เตรียมอย่างสมบูรณ์ ในวันสอบจูนินรอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้สังหารคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้เป็นพ่อของกาอาระ และได้ปลอมตัวเป็นคาเซะคาเงะ นั่งดูการแข่งขันข้างๆ กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เมื่อสัญญาณการโจมตีดังขึ้น โอโรจิมารุได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยมีนินจาจากหมู่บ้านโอะโตะอีก 4 คน ช่วยกางคาถาม่านพลังไม่ให้คนอื่นเข้ามายุ่งในระหว่างที่โอโรจิมารุสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยในระหว่างการต่อสู้ โอโรจิมารุได้ใช้ร่างของลูกน้องตัวเองสังเวยเพื่อที่จะใช้คาถาสัมภเวสีคืนชีพร่างของ โฮคาเงะรุ่นที่ 1และ โฮคาเงะรุ่นที่ 2 มาช่วยต่อสู้ ภายหลังการต่อสู้สิ้นสุดลง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่สามารถเอาชนะโอโรจิมารุซึ่งเป็นอดีตศิษย์ได้ และได้เสียชีวิตลง พร้อมทั้งผนึกวิชานินจาบนมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้วิชานินจาได้อีกต่อไป
การต่อสู้สิ้นสุดลงโอโรจิมารุ ได้ตัดสินใจออกตามหาซึนาเดะ นินจาแพทย์อดีตเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้มาช่วยรักษามือทั้งสองข้าง โดยได้ตกลงกับซึนาเดะว่า ถ้ารักษามือทั้งสองข้างให้ จะช่วยปลุกร่างของนาวากิ น้องชาย และดันอดีตแฟนของซึนาเดะ ที่ทั้งสองคนเสียชีวิตในช่วงของสงครามนินจาคืนมา แต่ซึนาเดะใช้เวลาตัดสินใจ 1 อาทิตย์และได้ปฏิเสธข้อเสนอของโอโรจิมารุ และได้ประกาศจะล้างแค้นให้ทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะ โดยทั้งสองคน รวมทั้ง จิไรยะ ได้เกิดการต่อสู้กัน แล้วโอโรจิมารุก็ได้หนีไป
สุดท้ายโอโรจิมารุได้ตัดใจและได้เปลี่ยนวิญญาณของตัวเองไปอยู่ในร่างของนินจาคนอื่นเพื่อให้หายจากผนึกของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ในขณะเดียวกันก็รอการเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ ที่หนีมาจากหมู่บ้านโคโนฮะ และ นารุโตะก็ได้ต่อสู้กับ ซาสึเกะโดยที่นารุโตะไม่ยอมให้ซาสึเกะ ไป จึง ต่อสู้เพื่อห้ามไว้ ถัดมา นารุโตะได้สู้กับ ซาสึเกะ ตัวเองสลบไป แล้วซาสึเกะจึงไปที่หมู่บ้านโอะโตะ เพื่อให้โอโรจิมารุสอนวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองหรือให้ตัวเองเก่งขึ้น
ผ่านไป 2 ปี ทีมนารุโตะที่ได้รับคำสั่งให้มาพบกับสายลับของซาโซริ ซึ่งก็คือ ยาคุชิ คาบุโตะ แต่คาบุโตะที่ร่วมมือกับโอโรจิมารุก่อนแล้ว ได้ร่วมมือกับโอโรจิมารุต่อสู้กับทีมของนารุโตะ ทำให้นารุโตะแสดงพลังจิ้งจอกเก้าหางออกมาถึง 4 หาง แล้วโอโรจิมารุก็หนีไปพร้อมกับคาบูโตะ
หลังจากนั้นเริ่มถึงเวลาเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ แต่โดนซาสึเกะกำจัดไปและไปอยู่ในอักขระสาปของซาสึเกะ แล้วออกมาในตอนที่สู้กับอิทาจิโดนอิทาจิใช้ดาบโทซึกะแทงเข้าทำให้ถูกผนึกเข้าไปในโลกแห่งคาถาลวงตานิรันดร์ ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 หลังจากที่อิทาจิใช้อิซานามิกับคาบูโตะหยุดคาถาสัมปเวสีคืนชีพ ซาสึเกะได้ใช้ไคจาโฮอินเพื่อเรียกโอโรจิมารุออกมาจากตัวอังโกะ ทำให้อักขระสาปในตัวอังโกะหายไป โดยโอโรจิมารุไม่สนใจในสงคราม และเอาจักระของตัวเองออกจากคาบูโตะ แล้วนำทางพวกซาสึเกะไปเอาหน้ากากของยมทูต ที่วัดของตระกูลอุซึมากิ จากนอกโคโนฮะแล้วไปที่ห้องใต้ดินของศาลเจ้านาคาโนะของอุจิวะ เพื่อทำพิธีให้ยมทูตสิงร่างโอโรจิมารุสลายคาถาสะกดปิดผนึกซากอสูร เพื่อที่จะนำแขนกลับมา ได้ใช้คาถาสัมปเวสีคืนชีพเพื่อเรียกโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ถึง 4 ออกมาโดยใช้เซ็ตซึสีขาวที่ออกมาจากตัวของซาสึเกะถึง 6 ตัว โดยใช้ 4 ตัวสังเวย แล้วย้ายร่างเข้าไปในซ็ตซึสีขาว 1 ใน 2 ตัวที่เหลือ แล้วโฮคาเงะบอกคำตอบที่ซาสึเกะต้องการ จนซาสึเกะตัดสินใจจะเข้าร่วมสงครามเพื่อปกป้องสิ่งที่อิทาจิปกป้องไว้ โอโรจิมารุที่คลายการควบคุมสัมภเวสีคืนชีพ โฮคาเงะทั้ง4 จูโกะ ซุยเงสึ และคารินที่ออกมาจากโคโนฮะเพื่อมาหาซาสึเกะ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ถามว่าทำไมถึงช่วยซาสึเกะ โอโรจิมารุตอบว่าตอนที่อยู่ในตัวของคาบูโตะได้รู้บางอย่างว่าสิ่งที่คาบูโตะทำคือความสมบูรณ์แบบแล้วล้มเหลว แต่ตอนนี้สนใจซาสึเกะที่ตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ต่างออกไป ซึ่งไม่เหมือนคาบูโตะที่ไม่ยอมเลียนแบบตน ทั้งหมดเหิญไปด้วยคาถาของโทบิรามะเข้าร่วมสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 ในสงครามได้นำพาคารินกับซุยเงสึไปหาพวกคาเงะเพื่อรักษา เพราะบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับอุจิวะ มาดาระ พร้อมกับบอกเหตุผลที่ช่วยซาสึเกะเพราะตนต้องการู้ว่าซาสึเกะจะเลือกทางแบบไหนต่อไป

ฉายา

  • หนึ่งในสามนินในตำนาน “ซาลามานเดอร์ ฮันโซ” เป็นผู้ขนานนาม
  • สามนินจาในโลกมืดแห่งสยาม
  • เซียนงูขาว
  • จงสะบั้นลื้น โอโรจิมารุ
  • ดาบ จงชี้ทาง คุซานางิ

ประวัติ

จิไรยะ ศิษย์ของ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 (ซารุโทบิ ฮิรุเซ็น) พร้อมกับ โอโรจิมารุและ ซึนาเดะ ที่รู้จักในชื่อ สามนินจาในตำนาน จิไรยะเป็นอาจารย์ชั่วคราวให้กับนางาโตะ (เพน)โคนัน และ ยาฮิโกะ (เพน วิถีสววรรค์)แห่งหมู่บ้านอาเมะงาคุเระ 3 ปี ก่อนจะกลับหมู่บ้านโคโนฮะ หลังจากนั้นจึงได้เป็นอาจารย์โดยตรงของ โฮคาเงะรุ่นที่ 4 (นามิคาเสะ มินาโตะ)กับลูกศิษย์ที่ไม่ปรากฏนามอีก 2 คน หลังจบสงครามโลกนินจาครั้งที่ 3(กำเนิดคาคาชิเนตรวงแหวนวีระบุรุษที่สะพานคันนาบิ)จิไรยะได้ออกเดินทางเพื่อเขียนหนังสืออีกครั้งตามคำทำนาย ก่อนจะกลับมาที่โคโนฮะและพบนารูโตะ(อายุ12ปี)ขณะฝึกวิชาเพื่อสอบจูนินรอบสุดท้าย และได้เป็นอาจารย์ของนารูโตะตั้งแต่นั้นมา จิไรยะมีฉายาคือ "เซียนกบ" เขาชอบท่องเที่ยวผจญภัย ในระหว่างการเดินทาง เขาได้แต่งหนังสือ สวรรค์รำไร หรือ อะจึ๋ยสวรรค์รำไร และได้ฉายาว่า "เซียนลามก" จากนารูโตะ
ในวัยเด็ก จิไรยะได้ใช้คาถาอัญเชิญที่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ทำให้ดู โดยที่ยังไม่ได้ทำสัญญากับสัตว์อัญเชิญ ทำให้จิไรยะได้ไปที่ภูเขาเมียวโบคุ เพื่อฝึกวิชาเซียนกบแต่เพราะอยู่ในช่วงสงคราม ทำให้จิไรยะต้องไปๆมาๆระหว่างโคโนฮะและภูเขาเมียวโบคุ ท่านเซียนกบใหญ่ได้ทำนายว่าลูกศิษย์ของจิไรยะจะเป็นคนเปลี่ยนแปลงโลกนินจา เขาจึงเริ่มออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของเขา ขณะที่เขาเดินทางเขาก็แต่งหนังสืออ่าจึ๋ยๆ ไปด้วย เมื่อจิไรยะกับมายังโคโนฮะอีกครั้ง นารูโตะได้ใช้คาถายั่วยวนจิไรยะ (คาถามหารั่นจวน) จนจิไรยะทนไม่ไหวและเขาก็ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนารูโตะพร้อมทั้งสอนทักษะระดับโฮคาเงะต่างๆ ให้กับนารูโตะ จนกระทั่งเขารู้สึกทึ่งกับความอีดของนารูโตะถึงแม้นารูโตะจะซื่อบื่อผิดจากมินาโตะลูกศิษย์คนโปรดของจิไรยะ แต่นารูโตะก็ไม่ยอมแพ้และมีความพยามสูง นอกจากนี้จิไรยะได้ให้นารูโตะทำสัญญาเลือดกับ กบกามะ กามะบุนตะ
จิไรยะได้กุญแจปลดผนึก8วิถีที่ผนึกคุรามะเอาไว้จากมินาโตะ และใช้มันปลดผนึกให้นารูโตะตอนที่เดินทางไปฝึกวิชา แต่นารูโตะควบคุมคุรามะ(9หาง)ไม่ได้ อาภรณ์ปีศาจจิ้งจอกออกมา 4 หางทำให้จิไรยะได้รับบาดเจ็บสาหัสรอบที่ 2(รอบแรกเกิดจากไปแอบดูผู้หญิงอาบน้ำแล้วโดนซึนาเดะต่อย)
จิไรยะมีงานอดิเรกคือแอบดูผู้หญิงอาบน้ำเป็นประจำ แม้แต่ในขณะที่นารูโตะกำลังลำบาก (สำหรับเป็นข้อมูลในหนังสือสวรรค์รำไร)
หลังจากทีม"งู"ของซาสึเกะ และทีมโคโนะฮะได้ออกเคลื่อนไหวเพื่อหาตัวอุจิวะ อิทาจิ จิไรยะได้ลักลอบเข้าหมู่บ้านอาเมะงาคุเระได้สำเร็จ เขาได้ต่อสู้กับเพน หรือ นางาโตะ ซึ่งมีถึง 6 ร่าง โดยครั้งนี้เขาได้เผยร่างเซียนออกมาสู้กับเพน และในขณะที่ได้รู้ถึงร่างจริงของเพน เขาก็ได้โดนเพนโจมตีที่ลำคอทำให้พูดไม่ได้ จิไรยะจึงสลักคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับตัวจริงของเพนไว้ที่หลังของผู้เฒ่ากบ ก่อนจะสิ้นลมหายใจไป สุดท้ายจิไรยะถูกเพนฆ่าตายในมังงะตอนที่ 353

คาถา

  • กระสุนวงจักร (ราเซ็นกัน)
  • กระสุนวงจักรมหายักษ์ (โอดามะ ราเซ็นกัน) (กระสุนวงจักรลูกใหญ่)
  • คาถาดิน บ่อน้ำพุเหลือง (ทำให้ดินกลายเป็นบ่อน้ำพุเหลือง)
  • คาถาไฟ ระเบิดเพลิง
  • คาถาระเบิดน้ำมันคางคก (ให้กามะบุนตะพ่นน้ำมันแล้วจิไรยะพ่นคาถาไฟ ระเบิดเพลิง ประสานไปพร้อมๆกัน)
  • คาถาควบคุมเงาคางคกตัวแบน (การเข้าไปอยู่ในเงาของคนอื่น)
  • คาถาเส้นผมเข็มพันเล่ม (ยิงผมที่กลายเป็นเข็มออกไป)
  • คาถาเปลี่ยนกายกลายเป็นกบ
  • คาถาเข็มองครักษ์ (ผมกลายเป็นโล่เข็มป้องกันทุกทิศ)
  • คาถาเส้นผมราชสีห์คลั่ง (การใช้เส้นผมพันร่างกายศัตรู และโจมตีในรูปมังกร)
  • คาถาโกะซาเอะมอน (พ่น ไฟ ลม น้ำมันพร้อมๆกัน แต่เป็นคาถาที่ใช้ในโหมดเซียนโดยมี ปู่เซียนและย่าเซียนกบ นั่งอยู่บนบ่า คาถานี้ใช้สู้กับเพน)
  • คาถาอัญเชิญ (กามะบุนตะ กามะเก็น กามะฮิโระ ฟุคาซากุ ชิมะ กามะคิจิ กามะทัตสึ พันธนาการปากกบ กามะ)
  • โหมดเซียน (จะมีแววตาและร่างกายคล้ายกบ ขอบตาสีแดง พลังงานมากขึ้น โดยใช้จักระเซียน ซึ่งได้จากธรรมชาติ)
  • คาถาไฟ บอลเพลิง

คาถาของสัตว์อัญเชิญ

  • คาถาไฟกระสุนเพลิงน้ำมันกบ
  • มีดสั้นกามะ (กามะบุนตะ)
  • คาถาน้ำ กระสุนน้ำ
  • หอกหนามกามะ (กามะเก็น)
  • ดาบคู่กามะ (กามะฮิโระ)
  • คาถาเซียนกบร้อง
  • คาถาอัญเชิญ ย้อนทาง
  • คาถาลมฝุ่นทราย
  • คาถาลิ้นกามะ
  • คาถาโกะซาเอมอน (ใช้คาถาไฟ คาถาลม และคาถาน้ำมัน พร้อมกัน)
  • คาถาลวงตา เพลงคู่กามะ
  • โล่กามะ (กามะ)
  • โหมดเซียน (แบบประสาน)

ประวัติของคาคาชิ

ฮาตาเกะ คาคาชิ เป็นนินจาระดับโจนินแนวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะมีฉายาว่า "เนตรวงแหวน คาคาชิ" หรือ "ก๊อปปี้นินจา คาคาชิ" อดีต เคยเข้าสังกัดนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ) ซึ่งมีฉายาว่า "เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" ซึ่งเป็นหนึ่งนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ ได้รับเนตรวงแหวนจากอุจิวะ โอบิโตะเพื่อนร่วมทีม มอบให้ก่อนจะเสียชีวิต โดยได้รับการผ่าตัดจากฮารุโนะ รินในระหว่างภารกิจ
คาคาชิเป็นศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 (ซึ่งเป็นคนผนึกจิ้งจอกเก้าหางไว้ในตัวของนารูโตะ) เพื่อนร่วมทีมคือ อุจิวะ โอบิโตะ (เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติภารกิจความจริงรอดแต่ไปอยู่กับมาดาระ) และ ฮารุโนะ ริน คาคาชิคลั่งไคล้การอ่านหนังสืออจึ๋ยฯมาก ดังนั้นหากเขายังอ่านไม่จบ แต่มีคนมาเล่าตอนจบของอจึ๋ยฯให้ฟัง เขาจะทนไม่ได้ (ประมาณว่าเสียอรรถรสในการอ่านนั่นแหละ) ซึ่งตรงนี้นับเป็นจุดอ่อนของคาคาชิเลยก็ว่าได้ (สังเกตจากตอนที่คาคาชิกลับมาทดสอบฝีมือของนารุโตะกับซากุระ หลังจากการฝึกวิชามา 2 ปี) และ คาคาชิได้ฝึกวิชาเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาสำเร็จ(เคยเบิกได้เมื่อตอนที่คาคาชิใช้ตัดสายฟ้าฆ่ารินตายเนื่องจากตอนนั้นโอบิโตะไปที่นั้นและได้เห็นตอนนั้นพอดี ด้วยความเสียใจของทั้งคู่ทำให้พลังของเนตรวงแหวนเพิ่มมากขึ้นเกิดเป็นเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุพผาแต่เพราะทั้งคาคาชิและโอบิโตะมีเนตรคนละข้างทำให้พลังที่ได้เป็นคามุย มาดาระเคยพูดเอาไว้ว่า เนตรวงแหวนจะทรงพลังเมื่อมีเนตรวงแหวนทั้ง2ข้างเท่านั้น) แต่อิทาจิเคยพูดไว้ว่า"ถ้าไม่ใช่คนในตระกูลอุจิวะ ไม่สามารถเบิกเนตรนี้ได้" แต่คาคาชิก็ทำสำเร็จแม้ว่าจะยังใช้ได้ไม่คล่องก็ตาม ประมาณว่าใช้แล้วแรงหมดก๊อกเลยทีเดียว คาคาชิเคยใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาต่อสู้กับเพนแต่ใม่สำเร็จ และตัวเขาก็ถูกเพนสังหาร แต่คาคาชิก็ฟื้นขึ้นมาเพราะนางาโตะ (ผู้ควบคุมเพนทั้ง 6) สละพลังทั้งหมดเพื่อคืนชีวิตให้กับคนที่เขาฆ่าในหมู่บ้านโคโนฮะ ผ่ายหลังคาคาชิได้เข้าเป็น1ใน5แม่ทัพ ประกอบด้วย หน่วย1 ดารุย หน่วย2นินจาอิวะ ซึ่งเป็นลูกของสึจิคาเงะ หน่วย3คาคาชิหน่วย4แม่ทัพสูงสุดของพันธมิตรนินจาหน่วย5ชิผุเนะ หน่วยย่อยหน่วยตรวจจับ. อาโอ หน่วยลอบโจมตี คันคุโร่ ภายหลังได้มาเข้ารับหน้าที่เป็นโฮคาเงะรุ่นที่6ของหมู่บ้านโคโนฮะ

ข้อมูลจำเพาะ

  • ชื่อ : ฮาตาเกะ คาคาชิ
  • สูง : 181 เชนติเมตร
  • หนัก : 67.5 กิโลกรัม
  • จบการศึกษาที่โรงเรียนนินจา : เมื่ออายุ 5 ปี
  • เลื่อนขั้นเป็นจูนิน : เมื่ออายุ 7 ปี
  • เลื่อนขั้นเป็นโจนิน : เมื่ออายุ 13 ปี
  • คาถาที่ถนัด : ตัดสายฟ้า (คาคาชิเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง)
  • อาหารที่ชอบ : ซุปมิโซะ ปลาทะเลเผาโรยเกลือ
  • อาหารที่เกลียด : ของทอดทุกชนิด (โดยเฉพาะเทมปุระ) กับของหวาน
  • หนังสือเล่มโปรด : อะจึ๊ยสวรรค์รำไร (หนังสือที่จิไรยะเขียนตอนดูผู้หญิงอาบน้ำ)

ครอบครัวของคาคาชิ

แม่ของคาคาชิไม่ปรากฏในเนื้อเรื่อง แต่พ่อของคาคาชิคือ ฮาตาเกะ ซาคุโมะ นินจาอัจฉริยะซึ่งได้รับฉายาว่า "เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" เมื่อ 5 ปีก่อน พ่อของคาคาชิได้ไปปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดในฐานะหัวหน้าทีม เขาถูกบังคับให้ต้อง "เลือก" ระหว่างปฏิบัติภารกิจต่อ หรือ รักษาชีวิตลูกทีมไว้ ซาคุโมะเลือกช่วยชีวิตลูกทีมจึงจำใจสละภารกิจ (ซึ่งตามกฎห้ามละทิ้งภารกิจเด็ดขาด) จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกิดผลเสียตามมา ซาคุโมะถูกคนในหมู่บ้านตำหนิ สุดท้ายแม้กระทั่งเพื่อนร่วมทีมก็ว่าร้ายเขา ทำให้ซาคุโมะอ่อนล้าทั้งกายและใจ สุดท้ายก็ปลิดชีพตัวเองลง

กำเนิดเนตรวงแหวน(ชาริงกัน)คาคาชิ

ครูของคาคาชิคือ ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 4 มีเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนคือ อุจิวะ โอบิโตะ และ ฮารุโนะ ริน คาคาชิเก่งมากตั้งแต่เด็ก สามารถเลื่อนขั้นเป็นโจนินตั้งแต่ยังอายุยังน้อย คาคาชิยึดถือกกฎนินจามาก ส่วนโอบิโตะ เป็นเด็กสายเลือดอุจิวะ แต่อ่อนแอ ขี้แยมาก และยังไม่สามารถใช้เนตรวงแหวนได้ จึงถูกคาคาชิเยาะเย้ยอยู่เสมอ โอบิโตะกับคาคาชินั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ส่วนรินนั้นเป็นนินจาแพทย์ เป็นคนอ่อนโยน ใจดี เป็นนินจาหญิงคนเดียวในทีม (ดูเหมือนว่าแอบชอบคาคาชิอยู่)
วันหนึ่ง เมื่อคาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 4 และริน ก็ให้ของขวัญคาคาชิ มีเพียงโอบิโตะที่ไม่ได้ให้ของขวัญคาคาชิ ครูของคาคาชิหรือโฮคาเงะรุ่นที่4 ได้มอบหมายภารกิจหนึ่ง (ในสมัยนั้น ได้เกิดมหาศึก 5 แคว้นใหญ่นินจา มีการรบกันอยู่ประปราย) โดยให้คาคาชิ โอบิโตะ และริน ซึ่งมีหัวหน้าทีมคือคาคาชิแอบไปที่แนวหลังของข้าศึก และโจมตีสะพานซึ่งเป็นแหล่งลำเลียงยุทธอุปกรณ์ ส่วนท่านรุ่นที่ 4 จะไปรับข้าศึกแนวหน้า เมื่อเดินทางไปได้ช่วงหนึ่ง เจอคนของข้าศึกที่มาดูลาดเลาซุ่มโจมตีอยู่ คาคาชิจึงใช้พันปักษาที่พึ่งคิดขึ้น แต่พลาดท่าถูกศัตรูสวนกลับ แต่ท่านรุ่นที่ 4 ก็ช่วยไว้และสั่งห้ามไม่ให้คาคาชิใช้วิชานี้อีกเพราะมีจุดอ่อนตรงที่มีความเร็วมากจนไม่เห็นการโจมตีสวนของข้าศึก
เมื่อตกกลางคืนโอบิโตะถามท่านรุ่นที่ 4 ว่าถึงแม้จะเข้าใจว่าคาคาชิเก่ง แต่คาคาชิก็ชอบดูถูกเขาอยู่เรื่อย ท่านรุ่นที่ 4 จึงเล่าเรื่องของพ่อคาคาชิให้โอบิโตะฟัง และบอกโอบิโตะว่า "โอบิโตะ เข้าใจคาคาชิหน่อยเถอะนะ คาคาชิน่ะ เค้าไม่ได้คิดร้ายอะไรหรอก" เมื่อออกเดินทางอีกครั้ง ท่านรุ่นที่ 4 กับพวกคาคาชิก็แยกกันปฏิบัติภารกิจ แต่ในขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังเดินทางอยู่ ก็มีนินจาของข้าศึกมาจับตัวรินไป
โอบิโตะบอกให้คาคาชิไปช่วยริน แต่คาคาชิบอกว่าเราต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป โดยอ้างว่า "นินจาน่ะ ถึงต้องสละเพื่อนพ้อง ก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้จงได้ นั่นคือ กฎ" โอบิโตะไม่เห็นด้วยจึงตะโกนใส่คาคาชิว่า "ถ้าไม่ได้รินช่วยรักษาพวกเราตอนที่บาดเจ็บแล้ว ทั้งคู่ก็คงจะตายไปนานแล้ว" แต่คาคาชิก็ยังคงยืนยันคำเดิม โอบิโตะเลือดขึ้นหน้าถึงขนาดชกคาคาชิแล้วบอกว่า "ฉันจะไปช่วยรินคนเดียว" คาคาชิบอกว่า "นายไม่เข้าใจรึไงว่าคนที่ฝ่าฝืนกฎจะเป็นอย่างไร" โอบิโตะหันกลับมาพูดว่า "ฉันน่ะคิดว่าเขี้ยวสีขาวคือวีรบุรุษที่แท้จริง ถึงคนในวงการนินจาจะเรียกคนที่ฝ่าฝืนกฎหรือกติกาว่าเป็นสวะก็เถอะ แต่ว่า..คนที่ไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนน่ะ เป็นยิ่งกว่าเศษสวะซะอีก"
เมื่อโอบิโตะมาช่วยรินคนเดียว เกือบเสียท่าถูกนินจาฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน แต่ในที่สุดคาคาชิเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เพราะคาคาชิสำนึกได้จึงมาช่วยโอบิโตะ แต่คาคาชิก็ถูกฟันเข้าที่ตาซ้าย โอบิโตะเห็นดังนั้นจึงโกรธมาก และไม่อยากจะเสียคำพูดที่เคยพูดไว้ จึงเบิกเนตรวงแหวนสำเร็จ ได้และฆ่านินจาที่มาทำร้าย ทั้งคู่บุกเข้าไปในถ้ำที่ขังรินไว้ ได้ร่วมกันต่อสู้กับนินจาที่ใช้คาถาลวงตาเพื่อรีดข่าวสารริน ทีมเวิร์คของทั้งคู่ทำให้ฝ่าเข้าไปช่วยรินได้ แต่นินจาที่เฝ้าถ้ำ ใช้คาถาดินทลายภูเขา ทำให้ผนังถ้ำหล่นลงมา คาคาชิบอกให้ทุกคนหนีออกไป แต่เพราะคาคาชิมีมุมบอดที่ตาช้าย ทำให้ไม่เห็นหินก้อนใหญ่ที่จะหล่นลงมาทับตัวเอง โอบิโตะเข้ามาผลักคาคาชิออกไป ทำให้โอบิโตะถูกหินทับที่ร่างกายซีกขวาจนแหลกละเอียด
ในระหว่างความเศร้าโศกเสียใจและความสำนึกผิดของคาคาชิ คาคาชิพูดว่า "ถ้าฉันเชื่อนายมาช่วยรินด้วยกันตั้งแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้" โอบิโตะยิ้มและพูดว่า "จริงสิ ฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญแสดงความยินดีที่นายได้เลื่อนขั้นเป็นโจนินเลยนี่คาคาชิ เนตรวงแหวนนี้ ฉันให้นาย" โอบิโตะให้ ริน ผ่าตัดเปลี่ยนเนตรวงแหวนของตัวเองกับตาซ้ายของคาคาชิ หลังจากนั้น คาคาชิก็กระโดดออกมาจากปากหลุม เจอกับนินจาคนเดิมที่ใช้คาถาทำให้ถ้ำถล่ม เขามองหน้าคาคาชิแล้วพูดว่า "นินจาใครเค้าร้องไห้กัน เข้ามาเลยเจ้าขี้แย" ใบหน้าของคาคาชิฉายแววเด็ดเดี่ยว ดวงตาข้างขวาดำสนิทฉายแววว่างเปล่า ส่วนดวงตาแดงข้างซ้ายมีรอยแผลเป็นเป็นทางยาวนั้นมีน้ำใหลเอ่อ คาคาชิกล่าวว่า "โอบิโตะ เพราะนายทำให้คาถานี้สมบูรณ์" แล้วก็ใช้วิชาพันปักษาจัดการนินจาคนนั้นจนตาย เพราะว่าเนตรวงแหวนสามารถมองการโจมตีของศัตรูออก จึงแก้ไขจุดอ่อนจุดสำคัญของพันปักษาได้โดยปริยาย
แต่ไม่ทันไร ก็มีนินจาอื่นมาสมทบมากมาย พวกมันใช้คาถาดินทลายภูเขา ทำให้ดินถล่มลงมา กลบปากหลุมที่โอบิโตะนอนอยู่ ในวินาทีสุดท้าย โอบิโตะคิดก่อนจะตายว่า "อุตส่าห์ได้ญาติดีกับคาคาชิแล้วแท้ๆ อยากจะอยู่กับทุกคนให้นานกว่านี้" แล้วดินก็กลบปากหลุมจนบังโอบิโตะหมด คาคาชิบอกให้รินหนีไปโดยตัวเองจะถ่วงเวลาไว้และเสริมว่าโอบิโตะฝากรินไว้กับเขา เพราะงั้นต่อให้ต้องตายก็ต้องปกป้องรินไว้ให้ได้และพูดกับรินว่า "ริน โอบิโตะน่ะชอบเธอนะ เห็นเธอเป็นคนสำคัญถึงได้ปกป้องด้วยชีวิต" รินตะโกนทั้งน้ำตาว่า "คาคาชิ แล้วความรู้สึกของฉันล่ะ?" คาคาชิบอกว่าเขาเองเป็นแค่เศษสวะที่เคยจะทอดทิ้งเธอมาก่อน เมื่อนินจาทั้งหมดบุกเข้ามา คาคาชิก็ต่อสู้จนเฮือกสุดท้ายก่อนจะสลบไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่า ตัวเองนอนอยู่ข้างท่านรุ่นที่ 4 (ท่านรุ่นที่ 4 มาช่วยไว้ได้ทันเวลา)
หลังจากที่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาทำสำเร็จแล้ว การต่อสู้ของ 5 แคว้นนินจาก็สงบลง มีคนมากมายที่ตายจากการทำภารกิจ โอบิโตะก็เป็น 1 ในนั้น เรื่องราวของคาคาชิได้แพร่ขยายออกไปทั่วแคว้น และในวันนั้นก็มีผู้ใช้เนตรวงแหวนเกิดขึ้น 2 คนคือ อุจิวะ โอบิโตะ และ ฮาตาเกะ คาคาชิ ทุกคนต่างก็รู้จักคาคาชิ ผู้มีฉายาว่า "ก๊อบปี้นินจาคาคาชิ" (เครดิตโดย รวมเล่มเล่ม 27 ตอนคาคาชิบอยไลฟ์กลางสมรภูมิรบ)แต่การใช้เนตรวงแหวนนั้น ไม่คล่องเท่าที่ควร และสูญเสียจักระอีกด้วย
คาคาชิเบิกเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา(มังคโยชาริงกัน)ได้ครั้งแรกจากการที่ฆ่าริน(เฉลยในมังงะตอนที่604) (เนื่องจากตอนนั้นโอบิโตะไปที่นั้นและได้เห็นเหตุการณ์นั้นพอดี ด้วยความโศกเศร้าของทั้งคู่ทำให้พลังเนตรเพิ่มมากขึ้นเกิดเป็นเนตรกระจกเงาหมื่นบุพผาพร้อมกัน อ้างอิงจากมังงะตอนที่ 605 เนื่องจากโอบิโตะและคาคาชิมีเนตรวงแหวนคนละข้าง ทำให้พลังที่ได้เป็น"คามุย" มาดาระพูดเอาไว้ว่า เนตรวงแหวนจะทรงพลังเมื่อมีเนตรวงแหวนที่เหมือนกัน(ของคนคนเดียวกัน)ทั้ง2ข้างเท่านั้น อ้างอิงจากมังงะตอนที่602)หลังจากนั้นคาคาชิใช้เพียงเนตรวงแหวนธรรมดาไม่เคยใช้เนตรกระจกเงาหมื่นบุพผาจนกระทั่งฝึกจนใช้ได้เห็นผลครั้งแรกตอนสู้กับเดอิดาระ แต่ใช้ได้ไม่คล่องและใช้ได้ไม่กี่ครั้ง เมื่อใช้แล้วจะสูญเสียจักกระมากทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลทุกครั้ง
หลังจากคาคาชิรู้ความจริงเรื่องพลังของโทบิ(ที่เข้าใจว่าเป็นมาดาระ)ว่าพลังคามุยของโทบินั้นเชื่อมกับคามุยของคาคาชิ ทำให้คาคาชิค่อนข้างมั่นใจว่าเนตรวงแหวนข้างขวาของโทบินั้นเป็นของโอบิโตะ คาคาชิได้ใช้พลังของตนกับนารูโตะทำให้สามารถทำลายหน้ากากของโทบิได้ ซึ่งนั้นก็คือเพื่อนรักของคาคาชิที่คิดว่าตายไปแล้ว อุจิวะ โอบิโตะนั่นเอง และนี่เป็นสาเหตุที่คาคาชิใช้คามุยโดยตรงกับตัวโทบิไม่ได้ ทั้งคามุยของทั้งคู่ยังเชื่อมถึงกันอีกด้วย

ลักษณะนิสัย

คาคาชิ ตอนใช้ท่าพันปักษา
คาคาชิ อาจารย์สังกัดกลุ่ม 7 หนึ่งในตัวละครที่รับความนิยมมากในหมู่สาว มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองสูง คาคาชิดูเหมือนจะเบลอในบางเวลา ดูเหมือนเขายังมีความเจ็บปวดลึกๆ ภายในจิตของเขาอยู่จากเรื่องในอดีต สังเกตจากเวลาปกติดวงตาจะดูเหม่อลอยเศร้าสร้อย แต่พอถึงเวลาที่คาคาชิเอาจริงขึ้นมา เท่ห์อย่าบอกใครเชียว โดยปกติจะอ่านหนังสือสวรรค์รำไร (อจึ๋ยสวรรค์ ในปัจจุบันมี 4 ภาค คือ อจึ๋ยสวรรค์รำไร อจึ๋ยตกสววรค์ อจึ๋ยสวรรค์ระทม และอะจึ๊ยแทคติคส์) นิยายวาบหวิวตลอดเวลา คนเขียนคือจิไรยะ ชายผู้ที่ได้ฉายาว่า เซียนลามกและเป็นอาจารย์อีกคนของนารูโตะ ในเล่มสุดท้ายคือตอนที่เอานารูโตะ ไปฝึกวิชาเพราะต้องส่งต้นฉบับจึงเขียนเป็นตอนไม่มีหญิงสาวเลย เวลานัดทีไรคาคาชิก็ชอบมาสายทุกครั้งและถึงแม้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็นปริศนา แต่คาดว่าจะต้องมีหนุ่มรูปงามซุกซ่อนอยู่ภายใตหน้ากากนั้นแน่ (สังเกตจากตอนที่พวกนารูโตะอยากเห็นใต้หน้ากากของคาคาชิ จึงชวนไปกินราเม็ง ลูกสาวร้านขายราเมงเห็นแล้วถึงกับตกหลุมรัก ส่วนเจ้าของร้านราเมงถึงกับแอบหลง(แต่พวกนารุโตะไม่เห็น เนื่องจากอิโนะ ชิกามารุและโจจิได้มาบังพวกนารุโตะ)กับตอนที่คาคาชิช่วยสาวเมื่อ 3 ปีก่อนจาก 3 นินจาโมยะ พอคาคาชิจะพาไปส่งที่บ้าน เธอรีบกอดแขนแน่นเลย)อีกนิสัยหนึ่งคือ คาคาชิไม่ชอบให้ใครมาบอกเนื้อเรื่องล่วงหน้าของ อจึ๋ย เพราะเดี๋ยวไม่สนุก (นารุโตะเคยลองแล้วตอนสู้กับคาคาชิครั้งที่สอง)

วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

คิวบิ
คิวบิ โนะ โยโค
จำนวนหาง 9
 
พลังธรรมชาติ  เพลิงกาล
 
ร่างสถิต 
นารูโตะ โดยอดีตโฮคาเงะรุ่นที่สี่ ใช้คาถาอัญเชิญทูตมรณะในการดึงวิญญาณของเก้าหางแล้วใช้คาถาผนึกหกวิถี กักขังจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของนารุโตะตั้งแต่ยังเป็นทารก ท่านรุ่นที่สี่นั้นก็คือพ่อของนารูโตะเช่นกัน ร่างสถิตของเก้าหางคนแรกก็คือภรรยาของท่านรุ่นที่ 1 ร่างสถิตคนที่สองก็คือแม่ของนารูโตะ และต้องกลายเป็นเก้าให้ในวันที่คลอดนารูโตะเนื่องจากการคลอดลูกทำให้ผนึกคลายตัวออกจนหมดแล้ว มาดาระก็มาทำลายสมาธิของท่านรุ่นที่ 4 ในขณะจะกำลังจะปิดผนึกให้เหมือนเดิมโดยการจับนารูโตะที่พึ่งคลอดเป็นตัวประกัน
รูปแบบ 
สัตว์หางรูปแบบจิ้งจอก มีความเชื่อกันว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดาสัตว์หาง หมายถึงปริมาณจักระและระดับของวิชาคาถาอยู่ในระดับสูงสุด